Vital Injector คืออะไร? ทำไมถึงเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ
Vital Injector คือเครื่องมือแพทย์ประเภท Meso Gun ที่ถูกออกแบบมาเพื่อผลักสารอาหาร วิตามิน และเมโสต่าง ๆ ลงสู่ชั้นผิวหนังอย่างแม่นยำและทั่วถึง เครื่องนี้ช่วยกระจายตัวยาได้อย่างสม่ำเสมอในความลึกที่เท่ากันทุกจุด ด้วยระบบหัวเข็มที่สามารถปรับความลึกและปริมาณยาได้อย่างละเอียด ทำให้มั่นใจได้ว่าสารอาหารจะซึมเข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นวัตกรรมของ Vital Injector ยังรวมถึงระบบสุญญากาศ (Vacuum System) ซึ่งช่วยดูดผิวขึ้นก่อนการทำหัตถการ ทำให้เลือดไม่ไหลย้อนกลับและลดอาการบวมช้ำหลังทำ นอกจากนี้ การทำหัตถการในแต่ละครั้งเทียบเท่ากับการลงเข็มถึง 9 จุดในเวลาเดียวกัน ช่วยให้การทำหัตถการรวดเร็วขึ้นและลดความเจ็บปวดได้มาก
ด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง Vital Injector จึงได้รับการยอมรับและใช้งานในวงการแพทย์ชั้นนำกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ทั้งในคลินิกความงามและโรงพยาบาลชั้นนำ ทำให้เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้รับบริการและแพทย์ผู้ทำหัตถการอย่างแท้จริง
การผลักยาแบบเดิมเป็นยังไง? มีข้อจำกัดอะไรบ้าง
การผลักยาแบบเดิม เป็นการผลักสารอาหารเข้าสู่ผิวที่ละจุด ซึ่งจะมีการผลักใน 2 รูปแบบ คือ
- แบบสะกิด
เป็นวิธีการแบบเก่า ซึ่งใช้วิธีสะกิดผิวหน้าเป็นจุดเล็ก ๆ บริเวณผิวชั้นตื้นให้ทั่วบริเวณผิวหน้า ซึ่งจะช่วยในการผลักวิตามินให้ซึมเข้าสู่ผิวหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว- ข้อดี คือ เจ็บน้อย เพราะใช้เข็มสะกิดเบา ๆ ทั่วบริเวณใบหน้า
- ข้อเสีย คือ อาจติดเชื้อ หรือผิวอักเสบ เนื่องจากอุปกรณ์ไม่สะอาด เกิดผื่นแดงจากรอยเข็ม รวมถึงมีรอยช้ำเกิดขึ้นได้
- แบบ 16 จุด
เป็นเทคนิคที่มีการคิดค้นขึ้นจากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นการผลักยาตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง โดยจะใช้เข็มที่มีขนาดเล็กมากๆ แทงลงไปในชั้นผิวประมาณ 5-10 มิลลิเมตร เพื่อให้วิตามินซึมเข้าสู่ผิวได้ดี และได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน แบบไม่ต้องกลัวเจ็บ- ข้อดี คือ ตัวยาสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ เห็นผลได้ดีขึ้น รวมถึงมีรอยเข็ม และรอยช้ำน้อยกว่า รวมถึงตัวยาออกฤทธิ์ได้นานกว่า
- ข้อเสีย คือ มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าแบบสะกิด และอาจจะเจ็บกว่าแบบสะกิด
ข้อจำกัด
การผลักยาแบบเดิม ทั้งแบบ 16 จุด และแบบสะกิด มีข้อจำกัดในเรื่องของความแม่นยำ จากการควบคุมการลงน้ำหนักมือ ทำให้ความลึกของเข็มที่ลงไปในแต่ละจุดมีความลึกที่ไม่เท่ากัน และปริมาณยาที่ผลักเข้าสู่ผิว อาจไม่เท่ากัน ซึ่งมาจากการใช้แรงในการผลักยาที่ไม่คงที่ในแต่ละจุด รวมทั้งยังมีข้อจำกัดจากการลงทีละเข็ม ทำให้ใช้เวลานานในการผลักยา
เปรียบเทียบ ผลักยาแบบเดิม vs เครื่อง Vital Injector
รายละเอียด | ผลักยาแบบเดิม (สะกิด / 16 จุด) | Vital Injector |
---|---|---|
ความแม่นยำ | ขึ้นอยู่กับแรงมือ ความลึกอาจไม่เท่ากัน | ระบบควบคุมความลึกแบบดิจิทัล แม่นยำทุกจุด |
การกระจายตัวยา | ยาอาจกระจายไม่ทั่ว หรือไม่เท่ากันในแต่ละจุด | กระจายยาได้เท่ากันทุกจุด ด้วย Multi-Needle |
ความเร็วในการทำหัตถการ | ผลักทีละจุด ใช้เวลานาน | ผลักพร้อมกันได้ถึง 9 จุดในครั้งเดียว ประหยัดเวลา |
ความเจ็บปวด/รอยช้ำ | อาจมีรอยช้ำ รอย เจ็บในบางจุด | เจ็บน้อยลง ด้วยระบบดูดสุญญากาศ ลดการไหลย้อนของเลือด |
ความปลอดภัยและการติดเชื้อ | เสี่ยงหากอุปกรณ์ไม่สะอาด หรือใช้มือเปล่า | ระบบกรอง 3 ชั้น ลดโอกาสการติดเชื้อ อุปกรณ์ผ่านการฆ่าเชื้อ |
Vital Injector เหมาะสำหรับคลินิกหรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่แม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น ลดความเจ็บ ลดเวลาทำหัตถการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลักสารเข้าสู่ผิวอย่างทั่วถึง ต่างจากวิธีเดิมที่ต้องพึ่งทักษะของคุณหมอและใช้เวลานาน
Vital Injector ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีกว่าอย่างไร?
นอกจากผลของการเติมความชุ่มชื้นที่มาจากตัวยาหรือสารอาหารโดยตรงแล้ว เครื่อง Vital Injector ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงผิวได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ อย่างชัดเจน เนื่องจาก Vital Injector เป็นเครื่องมือชนิด Meso Gun ที่สามารถควบคุมความลึกของเข็มและปริมาณยาได้อย่างแม่นยำในทุกๆ จุด
การส่งสารอาหารเข้าสู่ผิวด้วยเทคโนโลยีนี้ ทำให้ตัวยาหรือสารอาหารถูกกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึงในชั้นผิวหนังลึก ซึ่งเป็นระดับที่ผิวสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แตกต่างจากการทาครีมหรือเมโสแบบสะกิดทั่วไปที่มักซึมเข้าผิวได้ตื้นกว่าและไม่ทั่วถึง
นอกจากนี้ Vital Injector ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ภายในผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และเรียบเนียนขึ้นในระยะยาว ผลลัพธ์คือผิวหน้าที่ดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี และลดเลือนริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัดเจน
ด้วยระบบที่แม่นยำและความปลอดภัยสูง Vital Injector จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือผิวที่ต้องการฟื้นฟูอย่างล้ำลึกอย่างแท้จริง
Vital Injector เหมาะกับใครบ้าง?
Vital Injector เหมาะกับทุกคนที่ต้องการบำรุงและฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก ด้วยระบบที่แม่นยำและปลอดภัย ทำให้สามารถปรับรูปแบบการรักษาให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
Vital Injector ส่งมอบสารบำรุงที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวลึกถึงชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ และเรียบเนียนขึ้น - ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูผิวให้กระชับ
ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ผ่านการปล่อยวิตามินและสารอาหารเฉพาะจุด ช่วยให้ผิวหน้าดูเต่งตึงและยืดหยุ่นมากขึ้น - ผู้ที่มีปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ
Vital Injector ช่วยผลักสารอาหารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอักเสบ ให้ผิวกระจ่างใสและสีผิวเรียบเนียนขึ้น - ผู้ที่มีรูขุมขนกว้างและผิวมัน
การผลักสารอาหารช่วยควบคุมความมัน และกระชับรูขุมขนอย่างมีประสิทธิภาพ - ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วแต่ไม่ต้องการพักฟื้นนาน
Vital Injector ช่วยลดความเจ็บปวดและรอยช้ำ ทำให้ผู้รับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ
ด้วยความแม่นยำของเทคโนโลยี Vital Injector ที่ควบคุมความลึกและปริมาณยาได้อย่างแม่นยำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและปลอดภัยในระยะย
หลังทำ Vital Injector ต้องดูแลผิวยังไง?
- งดล้างหน้า 6-8 ชั่วโมงหลังทำหัตถการ
- งดใช้เครื่องสำอาง หรือแต่งหน้าประมาณ 1 วันหลังทำหัตถการ
- หลีกเลี่ยงแสงแดด และความร้อน รวมทั้งทาครีมกันแดดเป็นประจำ
- หลังทำหัตถการ อาจทำให้ผิวแห้งจากรอยเข็มได้มากขึ้น จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้น
- หากเกิดรอยแดง ช้ำ จากรอย สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยรอยแดงจะหายไปประมาณ 1-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- งดใช้ครีมจำพวกไวท์เทนนิ่ง หรือครีมหน้าขาว
- ควรใช้ครีมบำรุงที่มีวิตามินผสมเพื่อช่วยฟื้นฟูผิว
- หลังทำทันที ควรงดกิจกรรมที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เช่น การอบซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก
- ผลกระทบหลังทำอาจจะเกิดขึ้นต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว
- ระหว่างการทำหัตถการ และหลังทำ หากมีอาการไม่สบาย หรือผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
สรุป
Vital Injector เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การผลักตัวยาเข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพและลึกกว่าวิธีเดิม ด้วยระบบที่แม่นยำและควบคุมปริมาณยาได้ดี ช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูสภาพผิว หรือแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุด นอกจากนี้ การดูแลผิวหลังทำก็ง่ายและไม่ยุ่งยาก ทำให้ Vital Injector เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าสำหรับคลินิกและผู้ใช้