Pico Laser คือ อะไร ?
Pico Laser คือ นวัตกรรมเลเซอร์โดยปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาในความถี่ที่มีความเร็วสูง โดยการยิงเลเซอร์ 1 ครั้งใช้ระยะเวลาปล่อยออกไปเพียง 1 ในล้านล้านวินาที นำมาใช้รักษาปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น การกำจัดเม็ดสี จุดด่างดำ แก้ปัญหาหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน หรือริ้วรอยแห่งวัย พัฒนาต่อมาจาก Q-Switched Laser สามารถฟื้นฟูเซลล์ผิวได้มากกว่า และมีประสิทธิภาพสูงกว่ารูปแบบเครื่องรุ่นเก่า
Pico Laser จัดเป็นกลุ่มเลเซอร์ที่สามารถปล่อยพลังงาน (Power) ที่สูงมากในระดับ Gigawatt ออกมาในช่วงของระยะเวลาการปล่อยแสงเลเซอร์ (Pulse Width) ที่สั้นมากถึงระดับ Picosecond หรือ 10 -¹² วินาที หรือ 0.000000000001 วินาที
หลุมสิวเกิดจากอะไร ? และทำไมถึงรักษายาก
หลุมสิว เกิดขึ้นจากความเสียหายภายในชั้นผิว มักจะเกิดขึ้นหลังจากการอักเสบของสิว หรือหลังสิวหาย โดยกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อหลังเกิดสิวที่ไม่สามารถสร้างคอลลาเจน (Collagen) และเนื้อเยื่อได้เพียงพอ ทำให้เนื้อเยื่อใต้ชั้นหนังกำพร้าหายไปบางส่วน และผิวชั้นนอกไม่สามารถเติมเต็มได้ ผิวจึงไม่เรียบเนียน มีลักษณะเป็นรอยบุ๋มลงไป รวมถึงอาจเกิดจากการสมานแผลที่ไม่สมบูรณ์ จนเกิดพังผืดระหว่างผิวหนังชั้นหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้ ซึ่งจะดึงผิวหนังให้ยุบลงจนเห็นเป็นหลุมสิวได้
ซึ่งหลุมสิวแต่ละประเภทก็อาจเกิดจากสาเหตุที่ต่างกันไป
1. หลุมสิวประเภท Rolling Scar – เป็นหลุมสิวที่พบได้บ่อยที่สุด มีลักษณะคล้ายแอ่งตื้นๆ เหมือนมีเชือกดึงผิวหนังให้ยุบลงไป ส่วนใหญ่เกิดจากสิวอักเสบที่ไม่รุนแรงมาก
2. หลุมสิวประเภท Ice Pick Scar – เป็นหลุมสิวที่เหมือนรอยเจาะลงไปในผิวหนัง ลึก และแคบ เกิดจากการบีบสิวหรือกดสิวแรงๆ จนทำให้เยื่อผิวหนังเสียหาย
3. หลุมสิวประเภท Box Scar – เป็นหลุมสิวที่มีลักษณะเป็นหลุมตื้นๆ แต่ขอบหลุมชัดเจน เป็นเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ส่วนใหญ่เกิดจากสิวอักเสบรุนแรง หรือรอยแผลจากอีสุกอีใส

Pico Laser รักษาหลุมสิวได้อย่างไร ?
Pico Laser รักษาหลุมสิวได้ด้วยการใช้ Microlens Arrays (MLA) ซึ่งเป็นการบีบอัดของพลังงานลงไปในชั้นหนังแท้ เกิดเป็นช่องว่างใต้ผิวหนังในชั้นหนังแท้โดยไม่มีการทำลายชั้นหนังกำพร้า (Laser-Induced Optical Breakdown – LIOB) จากนั้นจะเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และมีการจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ในเวลาต่อมา หรือที่เรียกว่า Skin Rejuvenation ทำให้ผิวบริเวณที่เป็นหลุมสิวดูตื้นขึ้น มีความเรียบเนียนมากยิ้งขึ้น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับการรักษาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน และรอยแผลเป็นได้อีกด้วย

เปรียบเทียบการรักษาหลุมสิวด้วย Pico Laser กับแบบอื่น
การรักษาหลุมสิวมีหลากหลายวิธี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น มีความเรียบเนียนมากยิ้่งขึ้น โดยแต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป
วิธีการรักษา | ข้อดี | ข้อจำกัด |
---|---|---|
Pico Laser (เป็นการสร้างคลื่นกระแทกความเร็วสูง เพื่อสร้างฟองอากาศเล็กๆ ใต้ผิว ที่เรียกว่า LIOB) | – สามารถรักษาหลุมสิวได้ทุกชนิด – ไม่เกิดการตกสะเก็ดหลังทำรักษา – หลังทำมักปล่อยอุณหภูมิค่อนข้างรวดเร็ว จนทำให้ไม่รู้สึกแสบ ร้อนเท่าเลเซอร์ที่ทำการรักษาหลุมสิว – เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีหลุมสิวเล็กน้อย | – อาจเกิดรอยแดง ช้ำ หรือตกสะเก็ด ในกรณีของการใช้พลังงานบางประเภท – หากหลุมสิวมีระดับรุนแรง อาจต้องเข้ารับการรักษาร่วมกับวิธีการอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ |
Fractional RF Laser (ไม่ใช่เป็นเลเซอร์ แต่เป็นการส่งคลื่นวิทยุเข้าไป) | – มีโอกาสที่จะรู้สึกแสบร้อน และเกิดปัญหาผิวไหม้น้อย เพราะพลังงานที่ออกจากหัวทำให้ผิวหน้ารู้สึกร้อนออกน้อยกว่าเครื่องเลเซอร์ชนิดอื่นๆ – เป็นการเลเซอร์ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างล้ำลึก ลึกลึก โดยเฉพาะกรณีที่มีร่องแผลเป็นลึก – เห็นผลครั้งเดียวน้อย เกิดผลลัพธ์เฉพาะระยะสั้นประมาณ 1-3 วันเท่านั้น – เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวลึกแต่ระดับเริ่มต้นถึงรุนแรง (ควรให้แพทย์ประเมินอีกครั้ง) | – หากเลือกใช้เครื่องแบบไม่มีเข็ม ผู้เข้ารับการเลเซอร์หลุมสิวอาจรู้สึกแสบร้อนมากเกินไป – หากต้องการผลลัพธ์ถาวร จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาโดยเฉลี่ยอย่างน้อย 4 ครั้งขึ้นไป |
Fractional CO2 Laser (เป็นคลื่นพลังงานขนาดเล็กๆ แต่กระจายไปทั่วบริเวณ โดยเปลี่ยนจากคลื่นพลังงาน ให้เป็นคลื่นความร้อน เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่) | – ราคาไม่ค่อยสูง เมื่อเปรียบเทียบกับการทำเลเซอร์หลุมสิวแบบอื่นๆ – มีความแม่นยำในการยิงเลเซอร์ เพราะสามารถเล็งจุดเล็ก | – เห็นผลช้า จึงต้องเลเซอร์หลุมสิวซ้ำตั้งแต่ 3-5 ครั้งขึ้นไป – สำหรับคนผิวแห้ง อาจมีโอกาสเกิดอาการผลข้างเคียงระยะสั้นได้ – ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาหลุมสิวรุนแรง – หากต้องการผลลัพธ์ชัดเจน อาจต้องเข้ารับเลเซอร์ร่วมกับการรักษาหลุมสิวแบบอื่นๆ หลังการรักษา อาจเกิดปัญหาแผลไม่ได้ |
Microneedling (เป็นการใช้เข็มขนาดเล็กสร้างการบาดเจ็บบนผิว) | – ระยะเวลาการฟื้นตัวค่อนข้างสั้น โดยปกติจะมีอาการแดง และบวมแดงเพียง 2-3 วัน – เหมาะสำหรับร่องรอยหลุมสิวตื้น สามารถตอบสนองได้ดีในกลุ่มที่หลุมตื้นขนาดเล็ก – มีจุดอ่อนซึ่งฟื้นฟูไม่ได้บางประเภท เช่น Texture และโทนสีผิว | – มักจะใช้รักษาร่วมหลายครั้ง โดยทั่วไปจะประมาณช่วง 2-3 สัปดาห์/ครั้ง – หากผิวเกิดรอยแดง บวม และระคายเคืองเยอะไป แม้การติดเชื้อจะเกิดขึ้นได้ยากแต่ก็ได้ทำให้ไม่ดูเหมือนเลเซอร์รักษาอย่างถาวร |
Subcision (การตัดพังผืด เป็นวิธีการใช้เข็มขนาดเล็กตัดและพังผืดใต้ผิวหนังออก) | – เหมาะสำหรับผู้ที่มีหลุมสิวขนาดมาก และกระจายเต็มผิวหน้า – หลังทำสามารถเห็นผลได้ทันที และมีระยะฟื้นตัวสั้น โดยส่วนใหญ่ต้องทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง โดยประมาณในการเห็นผลดีช่วง 3 – 6 เดือน – สามารถร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวได้ เพื่อให้เห็นผลเร็วขึ้น | – หลังทำอาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการบวม ช้ำ – หากดูแลรอยแผลไม่ดีพอ อาจเกิดแผลอักเสบหรือลงลึกจากการรักษาได้ |
Pico Laser เห็นผลจริงหรือแค่กระแส ?
การทำ Pico Laser สามารถเห็นผลได้จริง ซึ่งขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเลเซอร์ในแต่ละคน และการดูแลผิวของแต่ละบุคคล ซึ่ง Pico Laser ทำงานได้ทั้งการฟื้นฟูผิว และลบรอย รวมทั้งยังเห็นผลในเรื่องของการรักษาหลุมสิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น เนื่องจากมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และมีการจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ใต้ผิว
สรุป
แม้หลุมสิวจะเป็นปัญหาที่รักษาได้ยาก แต่ด้วยเทคโนโลยี Pico Laser ที่สามารถยิงพลังงานความถี่สูงในระดับพิโควินาที ทำให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ลึกและแม่นยำ จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าจับตามองในการฟื้นฟูหลุมสิว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตรงตามความคาดหวังมากที่สุด