ตัวอย่าง 5 เลเซอร์ยอดฮิตต่างกันยังไง? เปรียบเทียบชัดๆ เลือกให้เหมาะกับผิวคุณ
Pico Laser เครื่องเลเซอร์นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ใช้เทคโนโลยี Picosecond ในการรักษาความผิดปกติของเม็ดสีใต้ผิวหนัง เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดง หลุมสิว รูขุมขนกว้าง และลบรอยสัก โดยมีคุณสมบัติพิเศษในการปล่อยพลังงานเลเซอร์ด้วย ความเร็ว 1 ต่อล้านล้านวินาที ทำให้เม็ดสีในผิวเกิดการแตกละเอียดการรักษาสั้นลงเพียง 2-3 เท่า ไม่ทำลายผิว ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ตามหลักการของ Selective Photothermolysis ยิ่งเลเซอร์ทำงานเร็ว พลังงานจะถูกดูดซับในเนื้อเยื่อเป้าหมายได้ดี และลดการกระจายไปยังเนื้อเยื่อรอบข้างอ่อนโยนต่อผิว และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวอีกด้วย
Q-Switch Laser คือ แสงเลเซอร์พลังงานสูงที่มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 532 นาโนเมตรซึ่งเหมาะกับผิวชั้นตื้น และ 1,064 นาโนเมตรที่เหมาะกับผิวหนังชั้นลึก โดยทั้งสองความยาวคลื่น มีความสามารถในการทำลายเม็ดสีเหมือนกัน แตกต่างกันแค่ความเหมาะสมในการใช้แก้ไขปัญหาผิวเท่านั้น หลายคนมักเรียก Q-Switch Laser ว่าเป็นเลเซอร์หน้าใสเนื่องจากเลเซอร์ชนิดนี้นอกจากจะช่วยทำลายเม็ดสี ยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวดูใสขึ้นได้อีกด้วย หลักการทำงานของ Q-Switch Laser คือ เลเซอร์จะทำงานโดยการปล่อยคลื่นแสงออกมา เพื่อทำลายเม็ดสีให้แตกตัว หลังจากนั้นเม็ดสีเหล่านั้นจะถูกเม็ดเลือดขาวกำจัดออกจากร่างกายไป ส่งผลให้ปัญหาผิวได้รับการแก้ไข จุดด่างดำต่าง ๆ จางลง และผิวดูกระจ่างใสขึ้น โดยผิวบางส่วนอาจตกสะเก็ดหลังทำเลเซอร์ได้ แต่สะเก็ดจะหลุดออกและหายได้เองภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์
Dual Yellow Laser คือ เทคโนโลยีที่ช่วยลดรอยสิว รอยดำ รอยแดง หรือฝ้า กระ จุดด่างดำ โดยใช้เลเซอร์แสงสีเหลือง และแสงสีเขียว ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว ช่วยลดรอยต่าง ๆ ให้หายไปได้ในระยะเวลาไม่นาน ด้วยพลังเลเซอร์จากแสงสีเหลืองที่มีความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร รักษารอยแดง ปานแดง แผลเป็นสีแดง ฆ่าเชื้อสิว ควบคุมความมัน กระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอย และกระชับรูขุมขน และเลเซอร์แสงสีเขียวที่มีความยาวคลื่น 511 นาโนเมตรรักษาปัญหาเม็ดสีผิดปกติ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ
V Beam (วีบีม) คือ เทคโนโลยีความงามทางการแพทย์ที่นำเอาแสงเลเซอร์มาประยุกต์ใช้เพื่อรักษาปัญหาผิวพรรณต่างๆ ให้ดูจางลงได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรอยแดงสิว รอยดำ รอยแดงที่เกิดจากเส้นเลือดฝอย ปานแดง ไฝแดงและรอยโรคสีแดง พร้อมกระตุ้นการสร้างและจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ V Beam เลเซอร์อาศัยหลักการของ Micro Pulse Technology ด้วยการปล่อยคลื่นพลังงานเลเซอร์ความเข้มข้นสูงที่มีความยาวคลื่น 595 nm เข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ซึ่งคลื่นพลังงานเหล่านี้จะถูกดูดซับเอาไว้โดยอ๊อกซี่ฮีโมโกลบิน (Oxyhemoglobin) ที่พบได้ในรอยแดง ทั้งรอยแดงสิว รอยแดงจากเส้นเลือดฝอยหรือรอยปานแดง และเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งพบในจุดด่างดำ รอยดำต่างๆ ก่อนที่ค่าพลังงานความร้อนที่สะสมเอาไว้จะทำลายและย่อยสลายปัญหาผิวเหล่านี้ให้หมดไป ช่วยลดรอยแดงสิว รอยโรคสีแดงพร้อมช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส ผิวดูสุขภาพดีขึ้นได้อย่างชัดเจนโดยไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรืออาการระคายเคืองหลังการรักษา
Fractional Co2 Laser เป็นการปล่อยคลื่นพลังงานช่วงความยาวคลื่นที่ 10,600 nm ตัวคลื่นจะถูกดูดซับด้วยโมเลกุลของน้ำที่อยู่ในเซลล์และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนอย่างรวดเร็ว ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น จนเกิดการระเหย กลายเป็นไอ และทำให้หลอดเลือดเกิดการเเข็งตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่มีเลือดออก จะใช้ในการจี้ ตัด หรือทำลายผิวหนังในบริเวณที่เป็นรอยโรคต่าง ๆ (fully ablative) ให้ผลการรักษาตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ หรือการปล่อยพลังงานออกเป็นจุดเล็ก ๆรูปแบบตาราง (fractional ablative) เข้าไปกระตุ้นให้ผิวเกิดแผลในบริเวณที่ยิง เมื่อผิวเป็นแผลจะกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวใหม่มาทดแทนเซลล์ผิวเดิม และเร่งการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวให้ผิวมีความยืดหยุ่น เรียบเนียนขึ้น
Pico Laser vs Q-Switched Laser
Pico vs Q-Switched Laser ในกลุ่มเลเซอร์ที่ใช้รักษาปัญหาผิวพรรณ เช่น รอยสิวหรือรอยสัก Pico Laser และ Q-Switched Laser ถือเป็นสองเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูงและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน คลินิกความงามจึงควรเข้าใจข้อดีข้อจำกัดของแต่ละแบบ เพื่อเลือกใช้งานให้เหมาะกับปัญหาผิวและความต้องการของลูกค้า ในหัวข้อนี้เราจะเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการรักษารอยสิว และจำนวนครั้งที่ต้องใช้ในการลบรอยสัก เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าทั้งสองเทคโนโลยีมีความต่างกันอย่างไร
เปรียบเทียบ Pico vs Q-Switched Laser ประสิทธิภาพในการรักษารอยสิว
Picosecond Laser | Q-Switched Laser |
---|---|
ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่า และสลายเม็ดสีได้เร็วกว่า | ใช้เวลาในการรักษา และจำนวนครั้งมากกว่า |
เห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ 3-4 ครั้ง | เห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ 4-6 ครั้ง |
โอกาสเกิดรอยดำหลังการทำเลเซอร์ (PIH) น้อยกว่าQ-Switched Laser | โอกาสเกิดรอยดำหลังการทำเลเซอร์ (PIH) สูงกว่า Picosecond Laser |
ความแตกต่าง Pico vs Q-Switched Laser ในการลบรอยสักและจำนวนครั้งที่ต้องใช้ กี่ครั้งเห็นผล
Picosecond Laser | Q-Switched Laser |
---|---|
ปล่อยพลังงานได้เร็ว 1 ต่อ ล้านล้านวินาที | ปล่อยพลังงาน 1 ต่อ พันล้านวินาที |
สามารถทำลายเม็ดสีได้ละเอียดมากกว่า | สามารถทำลายเม็ดสีได้ละเอียดปานกลาง |
ไม่ก่อให้เกิดความร้อนสะสมบนผิว | มีโอกาสเกิดความร้อนสะสมบนผิว |
รู้สึกถึงแรงกระแทบบนผิว เจ็บน้อยมาก | รู้สึกถึงความอุ่นหรือร้อนจากพลังงานมากกว่าแรงกระแทก |
ใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่า และสลายเม็ดสีได้เร็วกว่า | ใช้เวลาในการรักษา และจำนวนครั้งมากกว่า |
เห็นผลชัดเจนหลังทำ 3-4 ครั้ง | เห็นผลชัดเจนหลังทำ 4-6 ครั้ง |
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส ลบรอยสิว ลบรอยสัก และกระชับรูขุมขน | ช่วยลบรอยดำ ลบรอยสิว ผิวกระจ่างใส |
ลบรอยสัก จำนวนครั้ง 6-8 ครั้ง *ขึ้นอยู่กับความเข้มของรอยสัก และสีของรอยสัก | ลบรอยสัก จำนวนครั้ง 8-10 ครั้ง *ขึ้นอยู่กับความเข้มของรอยสัก และสีของรอยสัก |

Pico Laser vs CO2 Laser
แม้ว่า Pico Laser และ CO2 Laser จะถูกใช้เพื่อการฟื้นฟูผิวเหมือนกัน แต่กลไกการทำงาน ประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่ได้กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในหัวข้อนี้เราจะพาไปดูว่าแต่ละเทคโนโลยีเหมาะกับปัญหาผิวลักษณะใดมากที่สุด พร้อมเปรียบเทียบทั้งในแง่ประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย รวมถึงผลข้างเคียงและระยะเวลาพักฟื้นหลังทำ เพื่อช่วยให้คลินิกตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่ตอบโจทย์ทั้งผลลัพธ์และความสะดวกของลูกค้า
เปรียบเทียบประสิทธิภาพ Pico vs CO2 Laser ในการฟื้นฟูผิวและลดริ้วรอย
Pico Laser เทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงาน ในช่วงเวลาที่สั้นมากระดับ Picosecond จึงทำให้เม็ดสีดูดซึมพลังงานจากเลเซอร์และแตกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆ ได้ดีโดยที่เนื้อเยื่อรอบๆไม่ได้มีการสะสมพลังงานความร้อน ซึ่งลดการเกิดผลข้างเคียง และใช้ระยะเวลาในการรักษาน้อย
หัว Fractionated Picosecond Laser ลักษณะของเลนส์จะมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง หรือ Microlens array (MLA) ที่ทำให้เกิด photomechanical Shock wave LIOB (Laser-induced optical breakdown) ในชั้น epidermis และ dermis เป็นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
Picosecond Laser with Fractionated Micro Lens Array (MLA) มีเลนส์พิเศษลักษณะคล้ายรังผึ้ง ที่ใช้รวมแสงและพลังงานเลเซอร์รวมให้เป็นพลังงานสูง เป็นการใช้แสงเลเซอร์ยิงไปที่ความลึกของชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ด้วยความเร็วและความแม่นยำสูง ทำให้เกิด LIOB (laser induced optical breakdown) ช่องว่างเล็กๆในชั้น epidermal และ Dermis โดยไม่ได้เกิดจากความร้อน จึง กระตุ้น ให้ สร้างcollagenใหม่ new collagen formation ในชั้นหนังแท้ ทำให้หลุมสิวดีขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ elastin เพื่อดันหลุมสิวให้ตื้นขึ้นมา อีกทั้งยังสามารถยิงไปที่เส้นเลือดเพื่อลบรอยแดงรอยดำจากสิวได้อีกด้วย จึงสามารถรักษาได้ทั้งหลุมสิว หน้าใส รูขุมขน แผลเป็น รอยแตกลาย
Fractional CO2 Laser เป็นการนำหลักการ Fractional Photothemmolysis (FP) มาใช้โดยการปล่อยลำเเสงจุดเล็กๆแบบแบ่งลงไปใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการถลอกของผิวเป็นจุดเล็กๆประมาณ 10-20% ของพื้นที่ผิว แล้วผิวปกติบริเวณข้างเคียงไม่ถูกเลเซอร์เป็นรูปแบบตาราง(fractional ablative) เข้าไปกระตุ้นให้ผิวเกิดแผลในบริเวณที่ยิง เมื่อผิวเป็นแผลจะกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวใหม่มาทดแทนเซลล์ผิวเดิม และเร่งการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวให้ผิวมีความยืดหยุ่น เรียบเนียนขึ้น
การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ Fractional CO2 Laser มีโอกาสเกิดรอยดำหลังทำเลเซอร์ ด้วยข้อจำกัดของสีผิว ในคนเอเชียซึ่งมีผิวเข้ม Skin type 3-5 (ผิวคนไทย) มีโอกาสเกิดรอยดำหลังเลเซอร์ Postinflammatory hyperpigmentation (PIH) ทำให้แผลหายช้ากว่าในผิวขาว skin phototype 1-2 อย่างมาก การตั้งค่าพลังงานจึงมีข้อจำกัดไม่สามารถใช้พลังงานสูง high fluence และความหนาแน่นของจำนวนเลเซอร์สูง high density ได้
ระยะเวลาพักฟื้นและผลข้างเคียง Pico Laser vs CO2 Laser
Picosecond Laser | Fractional CO2 Laser |
---|---|
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว | กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว |
พลังงานลงลึกไปยังชั้นผิวหนังได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นบน | พลังงานลงบนผิว โอกาสเกิดรอยดำสูงกว่า |
ช่วยลดรอยแดง และรอยดำที่มีในหลุมสิว | ช่วยลดรอยแดง และรอยดำที่อยู่บนผิว |
ใช้ระยะเวลาพักฟื้น 1 สัปดาห์ | ใช้ระยะเวลาพักฟื้น 1-2 สัปดาห์ |
ข้อจำกัดของสีผิว การตั้งค่าพลังงานและผลข้างน้อยกว่า | ข้อจำกัดของสีผิว การตั้งค่าพลังงานและผลข้างเคียงสูงกว่า |
ทำไมคลินิกควรมี Pico Laser เพิ่มเติมจากเลเซอร์อื่น
Picosecond Laser นวัตกรรมเลเซอร์เพื่อผิวสวยสมบูรณ์แบบ
Picosecond Laser หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “ Pico Laser ” เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยแห่งวัย หรือปัญหาหลุมสิว และผิวไม่เรียบเนียน
ด้วยพลังงานในระดับ Gigawatt และการปล่อยแสงเลเซอร์ที่มีความเร็วสูงในระดับ Picosecond (1 ต่อล้านล้านวินาที) ทำให้ Picosecond Laser สามารถส่งพลังงานลงลึกไปยังชั้นผิวหนังได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นบน กระบวนการนี้ช่วยสลายเม็ดสีเมลานินให้แตกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆ ร่างกายจึงสามารถกำจัดออกได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือสีผิวที่สม่ำเสมอ จุดด่างดำลดลง และหลุมสิวดูตื้นขึ้น
นอกจากนี้ Picosecond Laser ยังช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน และอีลาสติน ในชั้นผิว ช่วยให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น การรักษานี้จึงไม่เพียงช่วยแก้ไขปัญหาเม็ดสี แต่ยังช่วยฟื้นฟูผิวในระดับลึก ทำให้ผิวดูสดใสและสุขภาพดีตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่ทำ
Picosecond Laser จึงกลายเป็นเทคโนโลยีที่คลินิกความงาม และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำสำหรับผู้ที่มองหาผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจน และปลอดภัย ในระยะเวลาการรักษาที่สั้นและฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าเลเซอร์รุ่นเก่า!
สรุป
เทคโนโลยี Pico Laser มีจุดเด่นเหนือเลเซอร์ประเภทอื่นในหลายด้าน ทั้งประสิทธิภาพการรักษา ระยะเวลาพักฟื้นที่สั้น และผลข้างเคียงที่น้อยกว่า การมี Pico Laser ในคลินิกช่วยเพิ่มทางเลือกในการรักษาและเสริมประสิทธิภาพการให้บริการ ทำให้คลินิกสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น
สนใจเครื่อง Pico Laser
ทดลองใช้เครื่อง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ฟรี
สนใจเครื่อง Pico Laser
ทดลองใช้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ฟรี