ไขข้อสงสัย ทำไม เครื่อง EMT สลายไขมันได้

เครื่อง EMT คืออะไร

EMT เป็นเทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยในการปรับรูปร่าง โดยเครื่องจะปล่อยพลังงาน Electromagnetic wave เข้าไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อแบบ Supramaximal muscle contraction ซึ่งกล้ามเนื้อหดตัวมากกว่าการออกกำลังกายด้วยวิธีปกติ เทียบเท่าการกระตุ้น 20,000 ครั้ง ปั้นหุ่นเฟิร์ม ภายใน 30 นาที

หลังจากการทำ EMT จะไม่รู้สึกเจ็บหรือปวดแต่อย่างใด ไม่มีบาดแผล จึงไม่ต้องพักฟื้น เพียงแต่จะทำให้รู้สึกเมื่อยล้าในบริเวณที่ทำ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนเพิ่งออกกำลังกายเสร็จ แต่จะต้องทำต่อเนื่องอย่างน้อยประมาณ 8-10 ครั้ง จึงจะสามารเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน

อ่านบทความเพิ่มเติม ได้ที่ >> ทำความรู้จัก เครื่องสร้างกล้ามเนื้อ Maximas EMT ทางลัดของคนอยากหุ่นดี สลายไขมันและสร้างกล้ามเนื้อ

หลัการทำงานของเครื่อง EMT

Maximus EMT จะส่งพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูง (Electromagnetic wave) ผ่านชั้นผิว ลงไปที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง และชั้นกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดตัวแบบ Supramaximal Muscle Contraction กระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็ง และคลายตัวอย่างต่อเนื่อง ความถี่ประมาณ 20,000 ครั้ง ภายใน 30 นาที จนถึงจุดหดเกร็งสูงสุดของกล้ามเนื้อ 100% เทียบกับการออกกำลังกายปกติที่ทำได้เพียง 40% เท่านั้น ทำให้เกิดการสลายไขมัน และสร้างกล้ามเนื้อใหม่ขึ้นมา และเกิดกระบวนการ lipolysis ขึ้นภายใน Adipocyte ทำให้เกิดการหลั่ง Free fatty acid ออกมาทำลายเซลล์ไขมันบริเวณข้างเคียง ส่งผลให้เกิดการสลายตัวของชั้นไขมันในบริเวณที่ทำการรักษา

ไขมัน คืออะไร

ไขมัน คือส่วนประกอบหนึ่งของร่างกาย เป็นแหล่งพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ รักษาความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย เป็นส่วนประกอบของเซลล์ในร่างกาย และสมอง ปกป้องเซลล์และอวัยวะจากการกระแทก ตลอดจนส่งเสริมการทำงานของร่างกาย เช่น การละลายและดูดซึมวิตามินบางชนิด การซ่อมแซมการบาดเจ็บของร่างกาย ฯลฯ

ซึ่งไขมันนั้น ร่างกายเราได้รับมาจากการบริโภคอาหารต่างๆ เกิดกระบวนการย่อย และดูดซึม ส่วนหนึ่งนำมาใช้ได้ทันที แต่หากไขมันที่ได้มานั้นมีมากกว่าความต้องการในการใช้พลังงานของร่างกาย หรือไม่สามารถเผาผลาญได้หมด ก็จะมีการเก็บสะสมไว้ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อดึงมาใช้เป็นพลังงานต่อไป แต่หากไขมันไม่ถูกดึงไปใช้ได้หมด ก็จะสะสมที่อวัยวะ กล้ามเนื้อ ใต้ผิวหนัง ส่วนต่างๆ จนกลายเป็นส่วนเกินที่ยากจะกำจัด ส่งผลเสียต่อสุขภาพและรูปร่างต่อไป

ประเภทของไขมันในร่างกาย

Visceral Fat 

ไขมันในช่องท้อง สะสมอยู่รอบๆ และห่อหุ้มอวัยวะต่างๆ เช่น ลำไส้ กระเพาะอาหาร และโดยเฉพาะตับ ลักษณะที่แสดงออกมา คือ พุงยื่น เมื่อบวกกับ ไขมันตัวนี้เกิดจากสาเหตุที่ร่างกายอยู่ในสภาวะลดการใช้ Insulin ลงนั่นเองหรือที่เรียกว่า “Insulin Resistance” ภาวะที่ว่านี้ก็คือ ภาวะที่ร่างกายเราไม่ใช้พลังงานนั่นเอง คือไม่เคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ออกกำลังกายนั่นเอง ประเภทกินแล้ว นั่ง นอน อยู่เฉยๆ

Skinny Fat

คนที่มีน้ำหนักค่อนข้างน้อย (หรืออยู่ในช่วงปกติ) แต่เมื่อพิจารณาถึงรูปร่างแล้วจะพบว่ากลุ่มนี้กลับเป็นคนที่อาจจะบอกได้ว่าหุ่นไม่ดี

Stubborn Fat

ไขมันส่วนที่ลดยากที่สุด สำหรับผู้ชายมักจะมีไขมันนี้ที่ห่วงยางรอบเอว ส่วนผู้หญิงมักจะไปรวมอยู่ที่สะโพกและต้นขา สาเหตุที่ Stubborn Fat ลดยากมากเป็นเพราะ คุณสมบัติเฉพาะตัวของมัน ที่มีโครงสร้างแตกต่างจาก ไขมันส่วนอื่นๆ โครงสร้างของไขมัน จะประกอบไปด้วย Alpha-Receptors ที่เหมือนสวิตช์สั่งให้ไขมันเหนียวเกาะแน่นขึ้น

Subcutaneous Fat

เป็นไขมันที่เราใช้มือบีบผิวแล้วยกขึ้นมาเป็นก้อนได้ เห็นกันเป็นรูปธรรม ไขมันส่วนนี้หากมีมากเกินไป สามารถกำจัดออกได้ด้วยควบคุมโภชนาการอย่างถูกต้อง ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ

วิธีการสลายไขมันเอว

เนื่องจากไขมันรอบเอวนั้น มักจะเป็น Stubborn Fat และ Subcutaneous Fat การออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร อาจจะได้ผลในภาพรวมมากกว่า แต่การตอบสนองต่อการสลาย Stubborn Fat คุณสมบัติเฉพาะตัวของมัน ที่มีโครงสร้างแตกต่างจาก ไขมันส่วนอื่น ๆ โครงสร้างของไขมัน จะประกอบไปด้วย Alpha-Receptors ที่เหมือนสวิตช์สั่งให้ไขมันเหนียวเกาะแน่นขึ้น นั้นอาจไม่เห็นผล จึงเป็นสาเหตุว่าการออกกำลังกายอย่างหนักจนรูปร่าง และสัดส่วนเปลี่ยนแปลงทั้งตัว แต่หน้าท้อง ต้นขา สะโพก ที่ต้องการลดนั้น กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

การกำจัดไขมัน และกระตุ้นกล้ามเนื้อเฉพาะจุด จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กว่า และบังคับให้  Stubborn Fat เกิดการสลายแบบ Necrosis จึงเป็นวิธีที่สามารถ Stubborn Fat ได้ โดยมีวิธีสลายได้นี้

1. เทคโนโลยีความเย็น (Cryolipolysis)
การใช้ความเย็นจัดเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันโดยตรง หรือที่เรียกว่า CoolSculpting เป็นวิธีที่ทำให้ไขมันแข็งตัวและถูกขับออกจากร่างกายผ่านกระบวนการธรรมชาติ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณเอวแต่ไม่ต้องการทำศัลยกรรม

2. เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ (RF: Radio frequency)
เครื่อง RF จะปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุลงไปในชั้นไขมัน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มอุณหภูมิของเนื้อเยื่อ ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณที่ทำกระชับขึ้น

3. เทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดไขมัน (Laser Lipolysis)
การใช้เลเซอร์เพื่อทำให้เซลล์ไขมันอ่อนตัวลงก่อนถูกกำจัดออกไป สามารถช่วยลดไขมันบริเวณเอวได้อย่างตรงจุด เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็วและมีปริมาณไขมันสะสมระดับปานกลาง

4. เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMS: Electromagnetic Stimulation)
การใช้ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูง สามารถกระตุ้นการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบทั่วไป ช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ลดไขมันสะสม และทำให้สัดส่วนรอบเอวดูชัดขึ้น

5. การฉีดสลายไขมัน (Mesotherapy หรือ Fat Dissolving Injection)
การใช้สารฉีดเข้าไปช่วยสลายเซลล์ไขมันโดยตรง เช่น Deoxycholic Acid หรือสารที่ช่วยให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย วิธีนี้เหมาะกับบริเวณที่มีไขมันสะสมไม่มากและต้องการเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น

ทำไมเครื่อง EMT จึงสลายไขมันได้

ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า High-Intensity Focused ElectroMagnetic กระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการหด และคลายตัว แล้วดึงพลังงานจากคาร์โบร์ไฮเดรต ไขมัน มาใช้งาน เพื่อให้เกิดการสลายตัวของไขมัน และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ในลักษณะเดียวกับการออกกำลังกาย แต่ให้ผลโดยตรงกับกล้ามเนื้อบริเวณนั้นอย่างเต็มประสิทธิภาพกว่า จึงสังเกตเห็นว่าบริเวณที่ทำกล้ามเนื้อชัดขึ้น ไขมันลดลง การเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง ยังช่วยลดความยื่นหรือหย่อนคล้อยของหน้าท้องได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าท้องทำหน้าที่เป็นสเตย์ที่โอบรัดหรือดึงรั้งไขมันไว้

เครื่อง EMT สลายไขมันบริเวณไหนบ้าง

เครื่อง EMT สามารถทำได้ทุกจุดที่กล้ามเนื้อมัดใหญ่พอ ได้แก่

• กล้ามเนื้อบั้นท้าย 
• กล้ามเนื้อหน้าท้อง 
• กล้ามเนื้อต้นแขน
• ต้นขา 
• น่อง

ความแตกต่างระหว่าเครื่อง EMT ที่มี RF  กับเครื่องที่ไม่มี RF

เครื่อง EMT แบบเดิมกระตุ้นกล้ามเนื้อ แต่ต้องต่อเนื่องเป็นเวลานานจึงสามารถเพิ่มอุณหภูมิ และการเผาผลาญของไขมัน การผสานเทคโนโลยี RF จึงเหนือกว่า ด้วยพลังงานจากกระแสไฟฟ้า่ในช่วงคลื่นความถี่วิทยุ ที่สามารถผ่านทะลุผิวชั้นบนเพื่อไปเพิ่มอุณหภูมิในชั้นลึก และพร้อมกับการยืดคลายของกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 3 – 5 °C เร่งอัตราการเผาพลาญไขมัน ซึ่งเป็นวิธีการที่ปลอดภัย เพราะอุณหภูมิของร่างกายจะถูกกระตุ้นให้สูงขึ้นไม่เกิน 42° C ทำให้ระบบโลหิตบริเวณที่ทำดีขึ้น หลอดเลือดขยายตัว ช่วยให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีขึั้น และมีการขับของเสียในระบบน้ำเหลือง

ผลลัพธ์ของ Maximus

สรุป

เครื่อง EMT เป็นเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มสูง เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อและช่วยเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการลดสัดส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งบางรุ่นยังมีคลื่น RF ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันและกระชับผิว

ทดลองเครื่อง ฟรี ! พิเศษ ผ่อนชำระ 0%

บริษัท Inno Aesthetics Laser ขอมอบสิทธิพิเศษให้สำหรับผู้ที่สนใจ Maximus EMT

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด! สามารถติดต่อเพื่อขอรับการสาธิตประสิทธิภาพเครื่อง ฟรี ! มาพร้อมผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำปรึกษาตลอดอายุการใช้งาน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : Innoaesthetics Laser
Line : @innoaesthetics
Email : innoaestheticslaser@gmail.com
Tel : 098-7456-232